06.06.201822:55:00UTC+00ราคาน้ำมันได้ปรับตัว จากการระงับการผลิตจากเวเนซูเอล่า

ราคาน้ำมันได้ปรับตัวในวันพฤหัสบดี เพื่อชดเชยการร่วงลงของเซสชั่นก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากยอดการส่งออกที่ลดลงไปโดยสมาชิกโอเปค นั้นก็คือ เวเนซุเอลา

ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ พุ่งขึ้นมาถึง 33 เซนต์หรือ 0.4% โดยไปอยู่ที่ 75.69 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบจาก WTI ของสหรัฐอเมริกา ได้มีการเพิ่มขึ้นมาถึง 33 เซนต์หรือ 0.6% โดยไปอยู่ใน 65.11 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่มีการปิดตัวและร่วงลงไป 1.2% ในตำแหน่งที่ 64.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นสมาชิกของโอเปก ได้ส่งผลให้ ได้ลดการส่งมอบน้ำมันดิบแก่ลูกค้าจากท่าเรือของการส่งออกน้ำมันดิบ เป็นเวลาเกือบเดือน ตามข้อมูลของสำนักข่าวรอยเตอร์ อันเนื่องมาจากการเลื่อนการผลิตออกไปอย่างต่อเนื่อง ที่ได้ไปละเมิดสัญญาจัดหาน้ำมันดิบ PDVSA ของรัฐหากไม่สามารถส่งมอบได้อย่างรวดเร็ว .

เรือบรรทุกน้ำมันกำลังรอคอยที่จะบรรทุกน้ำมันดิบมากกว่า 24 ล้านบาร์เรล ซึ่งเกือบเท่ากับ PDVSA ที่รองรับในเดือนเมษายน โดยกำลังรออยู่ในท่าเรือส่งออกน้ำมันหลักของประเทศ มีการรายงานถึงข้อมูลของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ได้ แสดงให้เห็นว่า ปริมาณตงเหลือนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจริงจัง ทางด้าน PDVSA ได้แนะนำให้ลูกค้าบางราย ให้มีการประกาศว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ที่ทำให้สามารถหยุดการดำเนินการตามสัญญาชั่วคราวได้ หากไม่ได้ใช้ข้อกำหนดในการจัดส่งใหม่

ปัญหาด้านอุปทานของประเทศเวเนซุเอลา ได้เกิดขึ้นท่ามกลางการลดการผลิตลงไปของทางโอเปก ที่ได้เริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2017 เพื่อปรับสมดุลของตลาดและผลักดันราคาให้สูงขึ้น ส่วนกลุ่มผู้ส่งออกคาดว่าจะมาพบปะกันในสำนักงานในเวียนนา พร้อมกับ ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกับทางโอเปก นั้นก็คือ ประเทศรัสเซีย ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 22 เดือนมิถุนายนเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการผลิต

ประเทศอิหร่าน ซึ่งเป็นสมาชิกของโอเปค ได้ออกมากล่าว ในวันพุธว่าการเพิ่มกำลังการผลิตไม่ได้รับการพิจารณา เนื่องจากตลาดมีความเสถียรภาพและราคาที่ดีอยู่แล้ว

แท็ค: Oil, Investments, Commodity

กลับไปที่รายการ