07.05.201821:43:00UTC+00ตลาดวอลสตรีท ได้มีการปรับตัวขึ้นมา หลังจากที่หุ้นเทคโนโลยี มีการปรับตัวขึ้นมา 3 วันติดต่อกัน

ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ได้ปรับตัวขึ้นมาในวันจันทร์ หลังจากที่หุ้นเทคโนโลยี ได้มีการปรับตัวขึ้นติดต่อกันสามวัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เส้นค่าเฉลี่ยโดยหลักก็ได้ไปอยู่ในระดับสูงของรอบวัน หลังจากที่ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ออกมาทวิตข้อความว่า เขาจะเตรียมออกมาประกาศการตัดสินใจของเขาต่อข้อตกลงกับประเทศอิหร่าน ในวันอังคาร

นาย Trump ได้ออกมาทวิตข้อความเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขาต่อประเทศอิหร่าน โดยข้อตกลงนี้จะเพิ่มระดับการลงโทษ ก็คือการคว่ำบาตรต่อประเทศอิหร่าน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้ประเทศทางภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้ยกเลิกการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ดัชนีค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ได้ปิดตัวใน 94.81 จุด ซึ่งสูงกว่าเดิมใน 24,357.32 หลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นมามากเท่ากับ 200 จุด ระหว่างที่ดัชนี S&P 500 ได้ปรับตัวขึ้นมา 0.4 เปอร์เซ็นต์ ที่ 2,672.63 สำหรับดัชนีรวม Nasdaq ได้ปรับตัวขึ้นมา 0.8 เปอร์เซ็นต์ที่ 7,265.21 โดยได้เพิ่มขึ้นมามากเท่ากับ 1.1 เปอร์เซ็นต์

บริษัทด้านเทคโนโลยีหลายแห่ง และธนาคารต่างก็มีการทำกำไรเพิ่มขึ้นมา ซึ่งได้ไปหักลบออกกับ ผู้ผลิตเครื่องดื่ม และบริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อการบริโภคลงไป

หุ้นด้านพลังงานได้เพิ่มระดับขึ้นมาเมื่อ ราคาน้ำมันดิบในสหรัฐอเมริกาเพิม่ขึ้นมา และได้ปรับตัวขึ้นไปถึง 70เหรียญต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2014 ดังนั้นแล้ว ภาคพลังงานทางเลือกใน SPDR Fund (XLE) ได้มีการปรับตัวขึ้นมามากเท่ากับ 2.3เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมา 0.1 เปอร์เซ็นต์

ตลาดหุ้น ได้มีการปรับตัวขึ้นมาอย่างมาก อย่างที่เคยพบเมื่อเซสชั่นที่ผ่านมา ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เส้นค่าเฉลี่ยส่วนใหญ่ได้ปรับตัวไปมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่หุ้นของ Apple ได้ขยับตัวขึ้นไปสูงจากการรายงานข่าวที่ออกมาว่า Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett ได้ทำการซื้อหุ้นของบริษัทไปในไตรมาสแรกถึง 75ล้านหุ้น จึงทำให้ทาง Apple ปรับตัวขึ้นมา 0.7 เปอน์เซ็นต์ในวันจันทร์

หลังจากที่ผ่านมาสองสัปดาห์ ตลาดก็เริ่มมีการกระตุ้นเกิดขึ้นมาในวันศุกร์ จากการรายงานข้อมูลของรัฐบาลที่แสดงให้ทราบว่า การจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้นมาในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเริ่มมีการปรับตัวขึ้นมา แม้ว่าจะมีแนวโน้มของสงครามทางการค้าที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

อ้างอิงการรายงานข้อมูลจาก S&P Global Market ที่ระบุว่า เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ของบริษัทหลายแห่งในดัชนี S&P 500 ได้ออกมารายงานถึงผลประกอบการของช่วงฤดูกาลนี้ และอีก 62 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้ออกมานำเสนอทั้งรายได้ และรายรับ ที่มากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคระาห์ทางการเงิน