สำหรับผลกระทบจากความเสี่ยงทางการเมืองและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้บังคับให้นักลงุทนหลายคนหันหลังต่อทองคำ อ้างอิงจากสถาบัน TD Securities ที่มองหาในการปรับตัวไปเหนือ 1,300เหรียญต่ออนซ์ มันจำเป็นมากในการพบกับการฟื้นตัวดีขึ้นของความขัดแย้งในคาบสมัครเกาหลีและอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำในสหรัฐอเมริกา ส่วนโลหะมีมูลค่าอาจก็สามาถรปรับตัวขึ้นมาราวๆ 1375ดอลลาร์ ในทางตรงกันข้ามการขาดตัวกระตุ้นก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของการปรับตัวย้อนกลับของราคาไปใน 1200เหรียญต่อออนซ์

เป้าหมายของประเทศเกาหลีเหนือในการจู่โจมเกาะกวมได้อยู่ห่างออกไปจากปัจจัยการปรับตัวของออนซ์ทองและดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) สำหรับนักลงทุนหลายคนได้มองความกังวลต่อตัวแทนของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการปรับตัวลงของอัตราเงินเฟ้อซึ่งทำให้เกิดปัญหาอย่างต่อเนื่องต่อกระบวนการปรับนโยบายทางการเงิน ดังนั้นแล้วราคาผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคมที่อยู่ในแนวฌน้มไม่ค่อยดีได้ปรับตัวไปในการคาดการณ์ระดับกลางของผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน Bloomberg ที่ร้อยละ 1.7 โดยได้ลดโอกาสในการรัดกุมทางการเงินในเดือนธันวาคมลงไปในร้อยละ 36 ซึ่งเป็นปัจจัยในขาขึ้นสำหรับทองคำ แต่โชคไม่ดีที่ความสำเร็จของโลหัมีมูลค่าเองก็เป็นอันจบไป

ประธานธนาคารกลางแห่งนิวยอร์ก คุณ William Dudley พร้อมที่จะทำการโหวตเห็นด้วยในการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในปี 2017 โดยมองว่าข้อมูลด้านเศรษฐกิจมหภาคที่ตรงกับการคาดการณ์ โดยรวมแล้วการเติบโตที่รวดเร็วของยอดการค้าปลีกในเดือนกรกฎาคมอยู่ในร้อยละ 0.6 ต่อเดือนได้ช่วยตัวบ่งชี้ชั้นนำจากธนาคารกลางแห่งแอตลานตาปรับแนวโน้มการเติบโตของยอด GDP ขึ้นมาในไตรมาสที่สามถึงร้อยละ 3.7 ในไตรมาสซึ่งเป้นผลกระทบที่ดีต่อตลาดตราสารหนี้ของการเทรด ส่วนฟิวเจอร์สของสถาบัน CME ได้เพิ่มความเป็นไปได้ที่ว่าในเดือนธันวาคมอาจปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาถึงร้อยละ 53 ซึ่งได้ลดมูลค่าโลหะลงไปในด้านล่าง

ข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตของเครือ Citigroup ได้สร้างความประหลาดใจให้กับการแสดงของดัชนี และแนวโน้มการบีบรัดเงินเฟ้อจากตัวแทนของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาเริ่มออกไปช่วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ในสภาพแวดล้อมนี้พบว่าความสัมพันธ์แบบย้อนกลับของทองคำกับดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐได้กลายเป็นที่ถกเถียงต่อการขาย

การเคลื่อนไหวของดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐและทองคำ

แหล่งที่มา: Trading Economics

ในช่วงไตรมาสที่สองของการไหลเข้าของเงินทุนในหุ้น SPDR Gold เป็นจำนวนถึง 870ล้านดอลลาร์ไม่ได้มีส่วนช่วยให้คู่สกุลเงินออนซ์และดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น สำหรับหลักทรัพย์ของกองทุนที่เพิ่มขึ้นมาถึง 34พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การเคลื่อนไหวในเดือนสิงหาคมกลับอยู่ล้าหลักกว่าราคาซึ่งเป็นการยืนยันถึงธรรมชาติของการคาดการณ์การปรับระดับ

แรงกดดันต่อทองคำอาจจะเพิ่มขึ้นถ้าการประชุมของประธานธนาคารกลางใน Jackson Hole ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม โดยทางเจ้าหน้าที่จะให้ความสำคัญต่อแนวโน้มเดิมที่เคยพูดคุยกันเอาไว้ในกรประชุมที่คลายคลึงกันใน Sintra ประเทศโปรตุเกสในช่วงปลายเดือนมิถุนายน แต่ก่อนหน้านั้นความคาดหวังของการฟื้นฟูของนโยบายการเงินได้ส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งมีส่วนกับการตกระดับจากแนวโน้มขาขึ้นของคู่สกุลเงินออนซ์และดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) แต่ถึงอย่างไรก็ตามในเดือนกรกฎาคมพบว่านักลงทุนหลายคนมองว่ากระบวนการการรัดกุมทางการเงินอาจจะชะลอตัวลงซึ่งจะเพิ่มปริมาณของพันธบัตรพร้อมกับอัตราผลตอบแทนติดลบในมูลค่าถึง 8.6ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ต่อเดือนแล้วจะช่วยให้ทองคำปรับตัวขึ้นมาจากด้านล่าง

ตามเทคนิคแล้วจะเห็นได้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ไม่สมบูรณ์ได้หวนราคากลับไปในระดับด้านบนก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นจุดอ่อน หาก"แนวโน้มขาลง" สามารถทะลุผ่านแนวรับที่ $1,250 ต่อออนซ์ออกไปได้ ก็อาจจะมีกราฟรูปแบบ "Shark" ปรับตัวขึ้นมาจากแนวโน้มด้านล่าง

ตารางรายวันของทองคำ