18.04.201800:38:00UTC+00ราคาน้ำมันได้ปรับตัวจาก ปริมาณน้ำมันคงเหลือในสหรัฐอเมริกาลดระดบัลงไป และภัยด้านการผลิต

ราคาน้ำมันมีการปรับตัวขึ้นไปในวันพุธ ซึ่งได้รับการสนับสนุนมาจากการรายงานถึง การลดระดับลงมาของปริมาณน้ำมันคงคลังในสหรัฐอเมริกา และจากภัยที่ยังก่อตัวขึ้นมาของการหยุดการผลิต

สัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าจากทางเบรนท์ ได้มีการซื้อขายอยู่ใน 71.90เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 32เซ็นต์ หรือคิดเป็น 0.5 เปอร์เซ็นต์ จากระดับเดิมที่ผ่านมา สำหรับสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าจากทาง WTI ในสหรัฐอเมริกา อยู่ใน 33เซ็นต์ หรือ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ในระดับที่ 66.85เหรียญต่อบาร์เรล

ปริมาณน้ำมันดิบคงเหลือในสหรัฐอเมริกาได้ลดระดับลงไปเกือบ 1ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเหลือ 428ล้านบาร์เรล ตามการรายงานรายสัปดาห์ของสถาบัน API ในวันอังคาร นอกจากนั้นแล้วข้อมูลรายสัปดาห์จากทางการของสหรัฐอเมริกาเอง ก็จะมีการรายงานออกมาจาก EIA ภายในวันพุธ

ตลาดน้ำมันในระดับโลกได้เริ่มทรงตัวขึ้นมาเรื่อยๆ จากแนวโน้มที่ว่ามีความเสี่ยงของการหยุดการผลิตที่สูง รวมทั้ง ความขัดแย้งที่ก่อตัวขึ้นมาในภูมิภาคตะวันออกกลาง, การคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาต่ออิหร่าน และการลดระดับลงมาของการผลิต ที่ส่งผลต่อวิกฤตการณ์ทางการเมืองและด้าน เศรษฐกิจในเวเนซูเอล่า

ทางด้านธนาคาร ING ได้ออกมานำเสนอข้อมูลแก่ลูกค้าว่า ทางด้านเบรนท์ ได้มีการปรับตัวขึ้นมาสูงกว่า 70เหรียญต่อบาร์เรลในเดือนเมษายน เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมือง และ การฟื้นตัวขึ้นตามพื้นฐานในตลาด สำหรับทางด้านผู้ปล่อยสินเชื่อเองก็เพิ่ม การคาดการณ์ต่อระดับราคาโดยเฉลี่ยในปี 2018 สำหรับเบรนท์อยู่ที่ 66.50เหรียญต่อบาร์เรล จากเดิมใน 60.25เหรียญต่อบาร์เรล นอกจากนั้นทางด้าน ING เองก็ปรับการคาดการณ์ของ WTI ในปี 2018 ขึ้นมา 62.50 เหรียญต่อบาร์เรล จากเดิมใน 57.75เหรียญต่อบาร์เรล

แต่ในปี 2019 พบว่าทางด้าน ING อาจจะมีการลดระดับราคาลงไป เนื่องจาก ผลผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นมาในสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะมากขึ้นกว่าเดิมในรอบไตรมาส ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2016 ซึ่งมากกว่า 10.5ล้านบาร์เรล